วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ขาหมูเยอรมัน



ขาหมูเยอรมัน 
ส่วนผสม
ขาหมูเยอรมัน 1/2 ก.ก. 1 ชิ้น
พริกหยวกหั่นหยาบๆ 1/2 ลูก
หอมใหญ่ฝานบางๆ 1/2 ลูก
ผักดองกะหล่ำเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
ขาหมูเยอรมันมันฝรั่ง 2 ลูก
สับปะรด 1 ชิ้น
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
เบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3 ช้อนโต๊ะ
ผงอโรมาท 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น
เกลือ


วิธีทำ
1. นำขาหมูเยอรมัน(ต้มแล้ว)มาทอดกับไฟปานกลางให้สุกเหลืองทั่วทั้งชิ้นจนกรอบได้ที่
2. นำมันฝรั่ง 1 ลูกมาฝานเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเสียบไม้ย่างไฟอ่อนๆ
3. นำเนย หอมใหญ่หั่น เบคอนหั่น ลงผัดและโรยด้วยเกลือ พริกไทย และผงอโรมาท แล้วนำมาราดบนชิ้นมันที่ย่างแล้ว
4. นำสับปะรด พริกหยวกมาย่างไฟให้สุกเกรียมเล็กน้อย
5. นำมันฝรั่งอีกลูกที่เหลือมาทำมันบด โดยต้มกับเกลือและผงปรุงรสจนสุก ปอกเปลือกและนำมาบด
6. นำขาหมูจัดวางบนจาน พร้อมสับปะรด มันฝรั่งย่าง มันบด ผักดองกะหล่ำเปรี้ยว พริกหยวก จัดตกแต่งให้สวยงามน่าทาน เสิร์ฟอาหารพร้อม Pineapple Sauce หรือ Mustard


แซลมอนจี๊ดจ๊าด

แซลมอนจี๊ดจ๊าด 
 ส่วนผสม
แซลมอนจี๊ดจ๊าด
เนื้อปลาแซลมอนสด 2 ขีด

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด
พริกขี้หนู 20 เม็ด
กระเทียมสด 10 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
หัวไชเท้าและแครอทขูดฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่ 5 - 6 ใบ
พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด สำหรับตกแต่งจาน

วิธีทำ
1. นำเนื้อปลาแซลมอนที่แช่แข็งไว้ออกมาหั่นเป็นชิ้นขนาดความหนาประมาณครึ่งเซนติเมตร มาหั่นเรียงไว้ในจาน
2. จัดการกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่จะช่วยให้แซลมอนเกิดอาการจี๊ดจ๊าด โดยการเอาพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีไปปั่นหรือตำให้ละเอียด แล้วนำมาปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และเพิ่มรสชาติกลมกล่อมให้กับน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยน้ำซุปไก่
3. นำน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ได้นี้มาราดลงบนแซลมอนที่จัดวางไว้ในจาน จัดแต่งจานให้สวยงามด้วยเครื่องเคียงอย่างหัวไชเท้าและแครอทขูดฝอย กระเทียมสด และพริกชี้ฟ้าแดง โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ก็เป็นอันเสร็จ กลายเป็นแซลมอนจี๊ดจ๊าดที่เป็นกับแกล้มได้อย่างดีทีเดียวเลยละ

ทาโกยากิ (ขนมครกญี่ปุ่น)

ทาโกยากิ (ขนมครกญี่ปุ่น)
 ส่วนผสม
แป้งทาโกะ 1 ถุง (ถ้าไม่มี ใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์ หรือแป้งว่าว)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ทาโกยากิ
น้ำเปล่า 7 ถ้วยตวง
ทาโกะ (ปลาหมึกยักษ์ญี่ปุ่น) หั่นสี่เหลี่ยมเต๋า
ขิงดองญี่ปุ่นหั่นฝอยเล็กๆ
ต้นหอมซอย
ปลาแห้งญี่ปุ่น (สำหรับโรยหน้า)
ซอสหวาน สำหรับทาโกะยากิ
สาหร่ายผง
มายองเนส
น้ำมันพืชสำหรับเช็ดเตา


วิธีทำ
1. ค่อยๆผสมแป้ง 1 ถุงกับน้ำและไข่ไก่ จนเนื้อแป้งเนียนละเอียด
2. ตั้งเตาขนมครกจนเริ่มร้อน เช็ดเตาด้วยน้ำมันพืช (เพื่อไม่ให้ขนมครกติดเตา)
3. หยอดแป้งลงไปจนเต็ม
4. ใส่ส่วนผสมของปลาหมึก ต้นหอมซอย ขิงดอง ลงไป
5. รอจนด้านล่างสุก ใช้ไม้จิ้มพลิกกลับด้านรอจนสุกอีกแล้วกลับด้าน ได้ขนมครกลูกกลมๆกลิ้งไปมาจนสุกทั่ว
6. ตักใส่จานราดด้วยมายองเนส และซอสทาโกะยากิ โรยหน้าด้วยปลาแห้งและสาหร่ายผง


แซนด์วิช 3 รส



แซนด์วิช 3 รส 
แซนด์วิช 3 รส ส่วนผสม
ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
กุ้งนึ่งสับหยาบๆ 1/4 ถ้วย
ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
หอมไทยซอยบางๆ 1 หัว
พริกขี้หนูหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1/2 ช้อนชา
น้ำสลัดน้ำข้น 2 ช้อนโต๊ะ
ผักกาดแก้ว 2 ใบ
สะระแหน่เด็ดเป็นใบๆ 2 ใบ


วิธีทำ
1. ทาขนมปังทั้งสองแผ่นด้วยน้ำสลัด
2. ผสมกุ้ง ตะไคร้ หอม พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว เข้าด้วยกัน
3. ทาขนมปังทั้งสองแผ่น ด้วยส่วนผสมข้อสอง วางผักกาด นำขนมปังอีกแผ่นประกบ จัดใส่จานอาหาร

ซุปหน่อไม้ฝรั่ง



ซุปหน่อไม้ฝรั่ง 
ซุปหน่อไม้ฝรั่ง
ส่วนผสม
หน่อไม้ฝรั่งหั่นฝอย 250 กรัม
หอมใหญ่ซอย 2 หัว
น้ำซุปประมาณ 3–4 ถ้วย
เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1 ถ้วย
แป้งสาลี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ลูกจันป่นสำหรับโรยหน้าซุปเล็กน้อย

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตา ผัดเนยกับหอมใหญ่จนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่หน่อไม้ฝรั่ง ผัดจนสุกดี
2. เติมน้ำซุป เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนเปื่อยนุ่ม ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ยกพักไว้ให้เย็น
3. นำมาปั่นให้ละเอียด ใส่นมสด น้ำตาลทราย แป้งสาลี ตั้งไฟต้มให้เดือด คนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา
4. ตักใส่ถ้วยอาหาร ก่อนเสิร์ฟโรยลูกจันป่นเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กับขนมปังและเนยสด
 

แซนด์วิชปลาแซลมอนรมควัน



แซนด์วิชปลาแซลมอนรมควัน 

ส่วนผสม
ขนมปังโฮลวึต 2 แผ่น
ปลาแซลมอนรมควัน 2 ชิ้น
แซนด์วิชปลาแซลมอนรมควันน้ำสลัดน้ำข้น 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
ผักชีลาวสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
ผักกาดออร์กเขียว 2 ใบ
หอมใหญ่หั่นเสี้ยวหนา 1/2 ซม. 4–5 ชิ้น

วิธีทำ
1. ผสมน้ำสลัดน้ำข้น น้ำมะนาว และผักชีลาวให้เข้ากัน
2. ทาน้ำสลัดที่ผสมแล้วลงบนขนมปังทั้งสองแผ่น วางปลาแซลมอนลง
3. วางหอมใหญ่ และผักกาดลงข้างบน นำขนมปังอีกแผ่นมาประกบ วางใส่จานอาหาร

ก๋วยเตี๋ยวม้วนกุ้งแห้งและกุนเชียง



ก๋วยเตี๋ยวม้วนกุ้งแห้งและกุนเชียง 
ก๋วยเตี๋ยวม้วนกุ้งแห้งและกุนเชียงส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
แป้งตั้งหมิ่น 1/4 ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 3/4 ถ้วย
น้ำร้อน 3/4 ถ้วย
กุ้งแห้งต้มจนนิ่ม 2 ช้อนโต๊ะ
กุนเชียงจัดสี่ตามขวางและหั่นบางๆ 1/2 ถ้วย
ต้นหอมซอย 1 ถ้วย
งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสก๋วยเตี๋ยวหลอด
ถาดอะลูมิเนียมที่นึ่งได้

วิธีทำ
1. ผสมแป้งสำหรับทำแผ่นก๋วยเตี๋ยวโดยร่อนแป้งทั้งสามชนิดเข้าด้วยกัน ละลายในน้ำสะอาดจนเข้ากันดี แล้วจึงเทน้ำร้อนใส่ลงไปในขณะที่คนไปด้วย พักไว้ 15 นาที
2. ผสมกุนเชียง กุ้งแห้ง ต้นหอม และงาขาวคั่วให้เข้ากันพักไว้
3. ทาน้ำมันให้ทั่วถาดอะลูมิเนียม หย่อนถาดลงไปในน้ำร้อนจนถาดร้อนดี จึงตัดแป้งที่ผสมไว้ใส่ลงไปเอียงถาดไปมาให้แป้งเคลือบบางๆ ที่ก้นถาด โรยส่วนผสมกุนเชียงให้ทั่ว นำไปนึ่งในน้ำเดือดไฟแรง 3 - 5 นาทีจนแป้งสุก
4. นำถาดขึ้นมาลอยในน้ำเย็น 2 นาที จึงแซะแผ่นก๋วยเตี๋ยวออกมาม้วน พักไว้โดยไม่ให้ถูกลม
5. อาจเสิร์ฟร้อนๆ โดยนำไปนึ่งอีกครั้ง หรือทอดในกระทะแบนแบบแพนฟรายด์จนเหลืองกรอบแล้วเสิร์ฟใส่จานอาหารกับน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวหลอด

Tip.. สูตรนี้ทำล่วงหน้าไว้ได้เพียง 1 วัน โดยนำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่สำเร็จแล้วแช่เย็น และนำออกมานึ่งเมื่อจะเสิร์ฟ

 

เกาเหลาเลือดหมู

เกาเหลาเลือดหมู 
ส่วนผสม
เกาเหลาเลือดหมู
หมูเนื้อแดง 200 กรัม
หมูสับ 200 กรัม
ตับหมู 100 กรัม
เซ่งจี๊ 1 ชิ้น
หัวใจหมู 100 กรัม
เลือดหมูหั่นก้อนพอคำ 2 ก้อน
กระดูกสำหรับต้มน้ำซุป 1 กิโลกรัม
ไช้เท้า 1 หัว
ยอด - ใบอ่อนตำลึง 300 กรัม
ขึ้นฉ่ายหั่นฝอย 100 กรัม
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา


วิธีทำ
1. หมูสับเติมน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส คลุกให้ทั่ว พักไว้
2. กระดูกล้างน้ำ แช่ในหม้อนำประมาณ 1 ชั่วโมง นำขึ้นต้มด้วยไฟปานกลาง
3. ปอกไชเท้าให้สะอาด ล้างน้ำหั่นเป็นแว่นๆ หนาประมาณ 1 ซม. ใส่ลงในหม้อพร้อมเกลือป่น
4. ต้มต่อจนน้ำซุปใส่ไชเท้าสุก ใส่หมูบดปรุงรสที่เตรียมไว้ปั้นเป็นก้อนลงในน้ำซุป พอหมูสุกปิดไฟยกลง
5. หมูเนื้อแดงล้างน้ำพร้อมเครื่องในหมู หั่นทุกอย่างเป็นชิ้นๆ ลวกในน้ำร้อนจัดประมาณ 1 - 2 นาทีให้สุก ช้อนขึ้นแยกไว้เป็นอย่างๆ
6. เลือดหมูต้มน้ำเดือดประมาณ 3 นาที ช้อนขึ้นใส่ชามพร้อมน้ำขลุกขลิก
7. เวลาจะทาน เตรียมชามใส่ตำลึงตามชอบ ใส่เลือดหมู หมูลวก เครื่องในลวก ตักน้ำซุปพร้อมหมูสับที่เดือดจัดใส่ลงในชาม โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่ายหั่นฝอยและพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุง และข้าวสวยร้อนๆ

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่



ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 
 
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 1 ถ้วย
เนื้อไก่ (เลือกใช้ส่วนสะโพกติดมันนิดๆ) 100 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 5 - 6 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม ผักชี 2 ต้น
ผักกาดหอมเด็ดเป็นใบ 1 ต้น

วิธีทำ
1. หั่นไก่เป็นชิ้นพอคำ ซึ่งถ้าใครขยันหน่อยก็อาจจะหมักไก่ โดยใส่ซอสปรุงรส น้ำมันหอย พริกไทย น้ำตาล อย่างละพอประมาณ หมักทิ้งไว้ 2 - 3 ชั่วโมง (กุ๊กเล็กเคยได้ยินว่าถ้าใส่นมสดกับน้ำมันพืชผสมเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้เนื้อไก่นุ่มเด้งเช้งกะเด๊ะขึ้น สงสัยวันหลังต้องลองทำดูบ้างแล้ว)
2. หลังจากจัดการกับไก่แล้ว ก็หันมาจับตะหลิวตั้งกระทะใส่น้ำมัน อ้อ !! ขอคั่นรายการนิดนึง ถ้าหากว่าใครใช้กระทะเทปลอนก็คงไม่มีปัญหาเรื่องเส้นติดกระทะ แต่ถ้าใครใช้กระทะธรรมดาแนะนำว่าให้เผากระทะก่อน ด้วยการเปิดไฟแรงจนน้ำมันร้อนเป็นควัน เทน้ำมันทิ้ง แล้วเอาน้ำมาราดกระทะเร็วๆเพื่อล้างน้ำมันที่ไหม้ออกไป จะช่วยให้เส้นไม่ติดกระทะได้ดีเชียวล่ะ
3. ใส่น้ำมันเล็กน้อยในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน เอาไก่ลงไปผัดให้สุก
4. ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เหลือผัดให้เข้ากัน ผัดให้เส้นร่วนไม่ติดกันก่อนจะตอกไข่
5. ใส่ต้นหอม ลงไปผัดอีกนิดหน่อย เสร็จแล้วก็ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม โรยต้นหอมผักชีซอย ใส่พริกไทย น้ำส้ม พริกป่น ตามรสนิยมลิ้น แค่นี้มื้อนี้ก็อิ่มอร่อยแล้ว

ถ้า อยากให้อลังการเพิ่มขึ้นไม่อยากกินไก่อย่างเดียว ก็อาจจะเติมตับอ่อนหมู ปลาหมึกแช่ด่าง และตั้งฉ่าย ลงไปผัดด้วย พร้อมกับกินคู่กับปาท่องโก๋กรอบๆ ก็จะได้รสชาติความอร่อยยิ่งขึ้นจ้า


ก๋วยจั๊บเข้มข้น


ก๋วยจั๊บเข้มข้น

กวยจั๊บเข้มข้น
ส่วนผสม
เส้นกวยจั๊บต้มสุก 2 ถ้วย
ไข่ไก่ต้มปอกเปลือก 1 ฟอง
หมูกรอบ 4 ชิ้น
อบเชยป่น(หรือผงพะโล้) 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำอย่างหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
ต้นหอมและผักชีซอยสำหรับโรยหน้า 1 ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้สี่เหลี่ยมทอดกรอบหั่นชิ้นขนาดพอคำ 1/4 ถ้วยตวง
ตับหมู เลือดหมู เนื้อหมู อย่างละ 1 - 2 ชิ้น


วิธีทำ
1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่อบเชยป่น ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย เกลือ ลงไป ตามด้วยไข่ไก่ต้มสุก เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 30 นาที
2. ตักเส้นกวยจั๊บใส่ชาม ตักน้ำเครื่องปรุงราด และตามด้วยไข่ไก่ผ่าซีก เต้าหู้ทอดกรอบ หมูกรอบ ตับหมู เลือดหมู เนื้อหมู โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี แค่นี้ก็เรียบร้อย
3. ถ้าอยากให้อลังการงานสร้างกว่านี้ ก็อาจจะใส่โคนปีกไก่และเห็ดหอมลงไปด้วย หรือถ้าอยากกินแบบกวยจั๊บน้ำข้น ก็เพียงแค่ใส่แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งข้าวโพดก็ได้ ใส่ลงไปตอนที่ต้มเส้นกวยจั๊บแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก็จะได้อีกหนึ่งรสชาติ

 

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำพริกไก่ย่าง


น้ำพริกไก่ย่าง 

ส่วนผสม
หอมแดง 5 หัว
ไก่ย่างฉีกเป็นเส้นฝอย 1 ถ้วยตวง
น้ำซุปไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมกลีบใหญ่ 10 กลีบ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าแดง 5 - 6 เม็ด


วิธีทำ
1. นำพริกชี้ฟ้าแดง หอมแกง กระเทียม คั่วไฟให้สุกหอม แล้วจึงโขลกรวมกันให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว ให้ได้รสเปรี้ยว เค็ม หวานตามชอบ หากแห้งเกินไป ให้เติมน้ำซุปไก่ หรือน้ำอุ่นได้เล็กน้อย
2. นำไก่ย่างที่ฉีกเตรียมไว้ลงคลุกเคล้า เพื่อให้รสของน้ำพริกซึมเข้าไปในเนื้อไก่
3. รับประทานกับผักสดต่างๆ เช่น แตงกวา ถั่วพู ถั่วฝักยาว และมะเขือไข่เต่า



น้ำพริกหมูสับ


น้ำพริกหมูสับ 
 
น้ำพริกหมูสับ
ส่วนผสม
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งแกะเม็ดหั่นเป็นท่อน 1/4 ถ้วย
หมูสับ 1 ขีด
หอมแดงซอยบางๆ 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมซอยบางๆ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1 ถึง 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย


วิธีทำ
1. คั่วพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ทีละอย่าง ให้หอม แล้วพักไว้
2. โขลกเครื่องปรุงที่คั่วไว้ ให้ละเอียด ใส่หมูสับ โขลกให้เข้ากัน
3. ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก เกลือป่น ให้เข้ากัน แล้วพักไว้
4. ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อนใส่เครื่องปรุงที่โขลกไว้ ตามด้วยน้ำปรุงรส ผสมให้เข้ากัน ผัดให้หอม ให้น้ำพริกขลุกขลิก ตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสดตามชอบ

ขนมจีนน้ำยากุ้ง

ขนมจีนน้ำยากุ้ง 
ขนมจีนน้ำยากุ้ง

ส่วนผสม
ขนมจีน 50 จับ
พริกแห้งขนาดกลาง 15 เม็ด (แกะเมล็ดออกแล้วแช่น้ำหั่นหยาบ)
หัวหอมหั่นหยาบๆ 22 หัว
ข่าหั่นฝอย 10 แว่น
หัวกระชายหัวใหญ่ๆ 5 หัว (ปอกเปลือกแล้วหั่น)
รากกระชาย 1 + 1/2 กิโลกรัม (ขูดเปลือกแล้วหั่น)
ตะไคร้หั่น 4 ต้น
กะปิ 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
กุ้งปอกเปลือก 1 กิโลกรัม
ปลากุเลาเค็ม 1 ชิ้น
กะทิ 15 ถ้วย
น้ำสะอาด 10 ถ้วย

วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่หม้อตั้งเตาไฟ เอาพริกแห้ง กระเทียม หัวหอม ข่า หัวกระชาย ตะไคร้ รากกระชาย ใส่ลงไปเคี่ยวจนน้ำงวดลงครึ่งหนึ่ง ตักเครื่องแกงออกใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2. น้ำที่เหลือจากต้มเครื่องแกงตั้งไฟให้เดือด เอากุ้งที่ทำเตรียมไว้ลงไปต้มให้สุก ตักขึ้น ทิ้งไว้ให้เย็น
3. เอาเกลือป่น เครื่องแกงที่ต้มไว้ใส่ครกโขลกให้ละเอียด จะแบ่งโขลกทีละน้อยก็จะสะดวกและละเอียดง่าย จากนั้นนำมาโขลกรวมกันอีกครั้ง ใส่กะปิ เนื้อกุ้ง ลงไปโขลกจนเข้าเป็นเนื้อเดียว เตรียมไว้
4. นำกะทิ 15 ถ้วยใส่หม้อตั้งไฟจนแตกมัน เอาน้ำต้มกุ้งใส่ลงไป ตามด้วยปลากุเลาที่แกะเอาแต่เนื้อ ละลายเครื่องแกงที่โขลกเตรียมไว้ลงในหม้อ หมั่นคน อย่าให้ไหม้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสตามชอบ
5. แบ่งขนมจีนใส่จานอาหาร ราดด้วยน้ำยากุ้งร้อนๆ รับประทานกับถั่วงอก มะระต้ม ถั่วฝักยาว ใบแมงลัก หากชอบรสเผ็ดจะเพิ่มพริกขี้หนูป่นลงไปด้วยก็ได้ครับ

พริกขิงปลาซาบะไข่เค็ม

พริกขิงปลาซาบะไข่เค็ม 


พริกขิงปลาซาบะไข่เค็ม
ส่วนผสม
ปลาซาบะย่าง 1 ตัว
ตะไคร้หั่นละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดทอดกรอบ 5 ใบ
พริกชี้ฟ้าแห้ง 6 - 7 เม็ด
กระเทียม 10 กลีบ
หัวหอมเล็ก 5 หัว
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ไข่เค็มดิบเอาแต่ไข่แดง 5 ฟอง

วิธีทำ
1. แกะปลาซาบะเป็นชิ้นเล็กๆ ทอดให้กรอบ
2. โขลกตะไคร้กับผิวมะกรูดให้ละเอียด พริกชี้ฟ้าแกะเม็ดออกแช่น้ำพอนุ่ม ใส่โขลกรวมกัน ใส่กระเทียม หัวหอม กะปิ โขลกจนเข้ากันดี
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน 1/2 ถ้วย ผัดน้ำพริกที่เตรียมไว้ให้หอม ใส่น้ำตาล น้ำปลาคนจนเหนียวดี หรี่ไฟอ่อน ใส่ปลาที่เตรียมไว้ คนเบาๆ ให้เข้ากัน ใช้ไฟอ่อน ให้ปลาเข้ากับน้ำพริกและกรอบ โรยด้วยพริกขึ้หนูแห้งทอดกรอบ และใบมะกรูดทอดกรอบ นึ่งไข่แดงพอสุก ตักใส่จานอาหาร แต่งหน้า พริกขิงนี้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานไม่เสียง่าย

ขนมจีนน้ำเงี้ยว


ขนมจีนน้ำเงี้ยว 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว
ส่วนผสม
ซี่โครงหมูชิ้นเล็ก
เนื้อหมูสับละเอียด
เลือดหมูต้มสุกหั่น
ถั่วเน่าปิ้ง
พริกขี้หนูแห้งทอด
กระเทียมเจียว
ขนมจีน
ผักกาดดองหั่นฝอย
ผักชี
มะเขือเทศลูกเล็ก
ถั่วงอก
ต้นหอม
ดอกงิ้วคั่ว
แคปหมู
น้ำปลา น้ำมันพืช

ส่วนผสมน้ำพริก
พริกแห้งเม็ดใหญ่ผ่าเมล็ดออก 7 เม็ด
ข่า 1 แว่น
หอมแดง 5 หัว
กระเทียม 10 กลีบ
รากผักชี 1 ช้อนชา
กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ต้มซี่โครงหมูเป็นน้ำซุปหรือใช้น้ำซุปไก่ก้อน เติมน้ำปลาเล็กน้อย
2. โขลกเครื่องน้ำพริกให้ละเอียด โขลกถั่วเน่าปิ้งพอหยาบๆ
3. ผัดน้ำพริกแกงให้หอม ใส่เนื้อหมูสับ มะเขือเทศ ดอกงิ้ว ผัดให้เข้ากันตักใส่ในหม้อต้มซี่โครงหมู
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา พอเดือดยกลง
5. จัดขนมจีน ผักกาดดอง ถั่วงอก พริกขี้หนูแห้งไว้ในจานอาหาร เสิร์ฟคู่กับน้ำปรุงและตกแต่ง
6. ปรุงรสเพิ่มเติมด้วยมะนาว กระเทียมเจียว ผักชี ต้นหอม

น้ำพริกหนำเลี๊ยบ


น้ำพริกหนำเลี๊ยบ

น้ำพริกหนำเลี๊ยบ
ส่วนผสม
หนำเลี๊ยบกระป๋องเอาแต่เนื้อ 1/2 ถ้วย
หมูสับละเอียด 1/2 ถ้วย
น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิดี 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนู 15 เม็ด
กระเทียม 10 กลีบ
มะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
ผักสดต่างๆ ผักบุ้งไทย มะเขือต่างๆ แตงกวา ขมิ้นขาว

วิธีทำ
1. นำหนำเลี๊ยบมาสับให้ละเอียด แล้วโขลกกับกะปิ พริกขี้หนู กระเทียม จนเข้ากันได้ดี ใส่มะนาว น้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ ให้เข้ากัน
2. ตั้งน้ำมันใส่กระทะ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผัดหมูให้สุก แล้วนำหนำเลี๊ยบที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม ถ้าชอบหวานนำ ก็เติมหวานได้ ปรุงรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยอาหาร โรยด้วยกระเทียมเจียว รับประทานน้ำพริกกับผักสดต่างๆ

ส้มตำกุ้งสด


ส้มตำกุ้งสด 

หาก พูดถึงอาหารประจำชาติไทย แน่นอนว่า ณ วันนี้ส้มตำนับเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่ขึ้นชื่อลือชาไปทั่วโลก ที่ในเมืองไทยยุคปัจจุบัน ส้มตำถือเป็นเมนูสำหรับทุกชนชั้น ไล่ไปตั้งแต่ยาจกยันเศรษฐีรวยล้นฟ้า
โดยใครที่เบี้ยน้อยหอยน้อยก็กินส้มตำข้างทาง ส่วนใครมีกะตังค์ปานกลางถึงเยอะมาก ก็อาจจะไปหาส้มตำหม่ำได้ตามร้านอาหาร หรือตามโรงแรมหรูๆแล้วแต่สะดวก
นอก จากกินง่ายทำง่ายแล้วส้มตำในปัจจุบันยังถูกประยุกต์ไปเป็นส้มตำในหลายเมนู มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส้มตำผลไม้ ส้มตำคอหมูย่าง ส้มตำทะเล และอีกสารพัดส้มตำที่นับวันยิ่งดูแปลกตา แปลกหู แปลกลิ้น ขึ้นเรื่อยๆ
แต่สำหรับเมนูชวนเข้าครัวของกุ๊กเล็กมื้อนี้ ถือเป็นส้มตำประยุกต์ที่ยังคงไว้ด้วยรสชาติและวิธีการทำแบบส้มตำไทยของภาคกลาง ในชื่อ ส้มตำกุ้งสด
ส้มตำกุ้งสด
ส่วนผสม
มะละกอดิบสับ 1/2 ถ้วยตวง
แครอทสับ 1/2 ถ้วยตวง
กุ้งสด 2 - 3 ตัว
ถั่วฝักยาวหั่นประมาณ 1 นิ้ว 2 - 3 ฝัก
กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศหั่นเป็นซีก 1 ลูก
กระเทียม 4 กลีบ
พริกขี้หนู 5 - 6 เม็ด
ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปีบ

วิธีทำ
1. นำกุ้งสดมาลอกเปลือก ผ่าหลัง เด็ดหัวล้างน้ำให้สะอาดแล้วพักไว้ อ้อ!!! กุ้งสดนี่ขอให้สดจริงๆ มิฉะนั้นจะคาวเวลาตำออกมา แต่ถ้าหากใครกลัวกินกุ้งสดแล้วท้องเสียก็อาจจะลวกกุ้งให้สุกก็ได้
2. ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมลงครกโขลกให้ละเอียด ตามด้วยกุ้งแห้งโขลกให้พอนุ่ม แล้วใส่ถั่วฝักยาว มะละกอ แครอท ตำรวมกันพอแหลก ก่อนจะส่งกุ้งสดลงไปคลุกเคล้า พร้อมๆกับมะเขือเทศและถั่วลิสงคั่ว
3. เสร็จสรรพปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปีบ ตามรสปากของแต่ละคนว่าชอบแซ่บมากแซ่บน้อย
4. สุดท้ายตักเสิร์ฟใส่จาน พร้อมด้วยผักแกล้มอย่างผักกาดหอม กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ตักใส่ปากกินกับข้าวเหนียวร้อนๆ ไก่ย่าง หรือกินเล่นเปล่าๆ หรือกินแกล้มเหล้าเบียร์ก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

ลาบไก่


ลาบไก่ 
ลาบไก่

ส่วนผสม
เนื้อไก่สับหยาบ 200 กรัม
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 30 กรัม
ต้นหอมซอย 20 กรัม
ผักชีฝรั่งซอย 20 กรัม
ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบมากก็ใส่มากหน่อยได้ครับ)
ใบโหระพา และพริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ สำหรับแต่ง

วิธีทำ
1. ผสมเนื้อไก่ น้ำ และน้ำมันพืช นำไปตั้งไฟ รวนจนสุก แล้วก็ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ
2. เติมข้าวคั่ว หอมแดง ต้นหอมและผักชีฝรั่ง คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วตักใส่จานอาหาร โรยหน้าด้วยใบโหระพาและพริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้ลาบไก่อันโอชะ แล้วล่ะครับ เพิ่มเติมความอร่อยด้วย การทานคู่กับผักสดแช่เย็นครับ

ลาบกะปู


ลาบกะปู 
ลาบกะปู

ส่วนผสม
ปูนา 2 ตัว
หอมแดง 2 หัว
ตะใคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนชา
มะนาว 1/2 ลูก
ผักชีฝรั่ง
ใบสะระแหน่

วิธีทำ
1. ล้างปูนาให้สะอาด และทำการแกะปูส่วนหน้าอกออก แยกเอาไว้ก่อน
2. ตำส่วนอื่นของปูให้ละเอียด ตักขึ้นใส่ชาม เติมน้ำสะอาดลงไปหน่อยคลุกให้เข้ากัน
3. นำตะแกรงมาลองแล้วบีบ กรองเฉพาะส่วนน้ำมาใช้ปรุงอาหาร
4. เอาช้อนมาขูดมันปูส่วนบริเวณหน้าอกปูที่แยกไว้ในขั้นตอนแรกมาผสมกับน้ำที่ได้จากการกรอง
5. นำน้ำไปตั้งไฟปานกลาง คอยคนตลอดเวลา จนกระทั้งร้อนได้ที่
6. บีบน้ำมาะนาวใส่ลงไป ตามด้วยพริกป่น ข้าวคั่ว น้ำปลา หอมแดงซอย ตะใครซอย ฝักชีฝรั่งซอย และใบสะระแหน่
7. พอเดือดได้ที่ก็เป็นอันว่าเสร็จแล้วครับ สำหรับเมนูอาหาร ลาบกะปู สุดอร่อย

แกงจืดฟัก


แกงจืดฟัก 

“ฟัก” คำๆนี้ หากไปเผลอพูดกับฝรั่งหัวแดงขี้ยั๊วะเข้า บางทีอาจจะถูกชกปากเอาได้ง่าย แต่สำหรับกุ๊กเล็ก เมื่อพูดถึงฟักแล้ว ใจก็อดคิดไปถึงแกงจืดฟักร้อนๆใสเห็ดหอมไม่ได้ ว่าแล้วก็เข้าครัวไปเตรียมเครื่องปรุงทำแกงจืดฟักใส่เห็ดหอมกันเลยดีกว่า
แกงจืดฟัก
ส่วนผสม
ฟักหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วยตวง
เห็ดหอมสด 1/2 ถ้วยตวง
หมูสับ 1/4 ถ้วยตวง
กุ้งกุลาดำ 6 - 7 ตัว
กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ใบผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 2 ถ้วยตวง
พริกไทยป่น น้ำตาลทราย น้ำปลา (ตามแต่จะใส่)

วิธีทำ
1. นำเห็ดหอมสดไปแช่น้ำให้พอนุ่ม แค่พออิ่มน้ำ (ส่วนถ้าไม่มีเห็ดหอมสดใช้เห็ดหอมแห้งก็แช่ให้บานนุ่มแค่พออิ่มน้ำเหมือนกัน)
2. นำกุ้งกุลาดำไปล้างให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกผ่าเอาเส้นดำที่หลังออกแล้วพักไว้ ส่วนกุ้งแห้งก็นำมาคลุกเคล้ารวมกับหมูสับ
3. นำฟักไปหั่นให้มีขนาดพอคำกำลังดีไม่ต้องใหญ่มากนัก และนำไปล้างให้สะอาด
4. นำน้ำซุปลงหม้อแล้วตามด้วยฟัก จากนั้นปั้นหมูสับที่คลุกรวมกับกุ้งแห้งเป็นก้อนๆ ใส่ลงไป และก็ตามด้วยเห็ดหอม
5. ต้มให้ฟัก หมูสับ และเห็ดหอม ทุกอย่างสุก (ทดสอบดูว่าฟักนิ่มแล้วก็เป็นอันว่าใช้ได้) แล้วค่อยปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย นิดหน่อย
6. นำกุ้งมาใส่ทีหลังเพื่อไม่ให้เนื้อกุ้งแข็ง เป็นอันว่าเสร็จก็ตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟได้ทันที
7. ใส่พริกไทยโรยหน้าสักนิด เพื่อเพิ่มความหอม และโรยหน้าด้วยผักชี เพิ่มความสวยงามน่ากิน

ต้มแซบกระดูกอ่อน


ต้มแซบกระดูกอ่อน 
 

ต้มแซบกระดูกอ่อน
ส่วนผสม
กระดูกหมูอ่อน 1/2 กิโลกรัม
ตระไคร้ 2 ต้น
ข่า 1 ต้นใบมะกรูด 3 ใบ
ผักชีฝรั่ง 3 ต้น
พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
ซุปไก่ก้อนคนอร์ 1 ก้อน
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 + 1/2 ช้อนโต๊ะ (3 ช้อนโต๊ะครึ่ง)
พริกป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำกระดูกหมูอ่อนมาต้มในน้ำเดือดจนเปื่อยนิ่ม
2. จากนั้นให้ใส่ใบมะกรูด ข่า ตระไคร้ ซุปไก่ก้อนคนอร์ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และพริกทอด ชิมรสตามต้องการ
3. ตักใส่ถ้วย โรยผักชีฝรั่งซอย และผักชีซอย เสิร์ฟร้อนๆ


เคล็ดลับ.. เพื่อทวีคูณความแซบ จี๊ดจ๊าด!! ต้มแซบควรมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม และต้องทานตอนร้อนๆ

เกี๊ยวกุ้งต้มยำ


เกี๊ยวกุ้งต้มยำ 

เกี๊ยวกุ้งต้มยำ
ส่วนผสม (สำหรับ 3 - 4 ที่)
เนื้อกุ้งแกะ 150 กรัม
หมูสามชั้นหั่นชิ้นและหนังออก 300 กรัม
พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 2 - 3 ต้น
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
พริกขี้หนูซอย 2 - 3 เม็ด
น้ำมันพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. หมักเนื้อกุ้งกับแป้งมันพักไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาล้างด้วยการปล่อยน้ำไหลผ่าน
2. ซับกุ้งให้แห้ง แล้วนำไปบดพร้อมกับหมูสามชั้น น้ำมันงาและต้นหอมซอยจนเนียนเหนียว
3. นำไปห่อด้วยใบเกี๊ยวให้สวยงาม ก่อนรับประทานนำไปลวกให้สุกใส่ลงในถ้วย
4. เติมน้ำซุปต้มเดือดปรุงรสด้วยน้ำมันพริกเผา ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริก และน้ำมะนาว ตามชอบ

ซุปไข่


ซุปไข่ 
ซุปไข่เจ

ส่วนผสม
เต้าหู้หลอดบด 1 หลอด
ข้าวโพดอ่อนหั่นท่อนสั้น 4 ฝัก
แครอทหันชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
ผักกาดหอมเด็ดเป็นใบ 1 ต้น
แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปผัก 1 ถ้วย

วิธีทำ
1. ล้างผักกาดหอมให้สะอาด จัดใส่ชาม พักไว้
2. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่เต้าหู้ ข้าวโพด แครอท ต้มประมาณ 10 - 20 นาที
3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พอเดือดละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำใส่พอสุกข้น ปิดไฟ ตักใส่ชามอาหารที่รองด้วยผักกาดหอม

มะระยัดไส้ต้มเกี่ยมฉ่าย

มะระยัดไส้ต้มเกี่ยมฉ่าย

มะระยัดไส้ต้มเกี่ยมฉ่าย

ส่วนผสม (รับประทาน 4 คน)
ผลมะระขนาดกลาง 4 ผล
เนื้อหมูสับ 300 กรัม
พริกไทยเม็ด 15 เม็ด
กระเทียม 5 - 6 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
เกี่ยมฉ่าย 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยเข้าด้วยกัน แล้วผสมในเนื้อหมูบดพร้อมทั้งซีอิ๊วขาว
2. มะระตัดเป็นท่อน ตามขวางผลประมาณท่อนละ 2 นิ้ว ควักไส้ออกให้หมด นำไปล้างน้ำแล้วผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. นำเนื้อหมูบดที่ผสมแล้วใส่ลงในไส้มะระให้เต็ม แล้วตั้งน้ำประมาณ 4 ถ้วยตวงให้เดือด ใส่เกี่ยมฉ่ายลงต้มสักครู่ จึงใส่มะระยัดไส้หมูลง ปิดฝา อย่าคน มิฉะนั้นรสขมจะออกมามาก
4. เมื่อเดือดสักครู่ จึงปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เสร็จแล้วก็ตักใส่ชามอาหาร พร้อมเสิร์ฟ

หมายเหตุ
มะระถ้าปรุงไม่ถูกวิธีจะมีรสขมมากดังนั้นจึงควรรู้เคล็ดลับในการปรุงอาหารจากมะระ วิธีต่างๆดังต่อไปนี้
1. มะระที่จะนำไปผัด แกง ที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ ตามขวางผล ถ้าเคล้ากับเกลือป่นทิ้งไว้สักครู่ แล้วคั้นน้ำออก นำไปล้างน้ำสะอาดอีกครั้งจะลดความขมลงได้มาก
2. ในการต้มมะระ เช่น มะระยัดไส้หมู หรือมะระตุ๋นกระดูกหมู ให้ใส่มะระในน้ำซุปหรือในน้ำต้มที่กำลังเดือด และปิดฝาทันที อย่าคนใน 10 นาทีแรก
3. การลวกมะระด้วยน้ำเดือดก่อนนำไปผัดหรือแกงจะช่วยลดความขมลงได้บ้าง แต่มะระนิ่มลงไปมาก
4. การเลือกมะระที่ถูกต้องคือ เลือกผลสีเขียวนวลค่อนมากทางขาว จะได้มะระที่มีรสขมน้อยกว่ามะระสีเขียวแก่

ซุปหน่อไม้ฝรั่ง


ซุปหน่อไม้ฝรั่ง

ส่วนผสม
หน่อไม้ฝรั่งหั่นฝอย 250 กรัม
หอมใหญ่ซอย 2 หัว
น้ำซุปประมาณ 3–4 ถ้วย
เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1 ถ้วย
ซุปหน่อไม้ฝรั่งแป้งสาลี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ลูกจันป่นสำหรับโรยหน้าซุปเล็กน้อย

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตา ผัดเนยกับหอมใหญ่จนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่หน่อไม้ฝรั่ง ผัดจนสุกดี
2. เติมน้ำซุป เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนเปื่อยนุ่ม ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ยกพักไว้ให้เย็น
3. นำมาปั่นให้ละเอียด ใส่นมสด น้ำตาลทราย แป้งสาลี ตั้งไฟต้มให้เดือด คนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา
4. ตักใส่ถ้วยอาหาร ก่อนเสิร์ฟโรยลูกจันป่นเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กับขนมปังและเนยสด

แกงจืดปลาหมึกยัดไส้



แกงจืดปลาหมึกยัดไส้
ส่วนผสม
ปลาหมึกกล้วยขนาดกลาง 500 กรัม
หมูสับละเอียด 300 กรัม
ลูกชิ้นปลา 200 กรัม
ต้นหอมผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
แกงจืดปลาหมึกยัดไส้
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน 1/2 ถ้วย
พริกไทยป่น เกลือป่น อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 2 ถ้วย

วิธีทำ
1. ปลาหมึกแยกตัวและหนวดออกจากกัน ลอกหนังแข็ง ถุงหมึกที่ตาออก ล้างน้ำให้สะอาด ใส่กระชอนไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. คลุกหมูสับกับพริกไทยและเกลือ ใส่ปลาหมึกอย่าให้เต็มนัก เอาหนวดเสียบใส่ตามเดิม
3. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่ปลาหมึกสอดไส้ ลูกชิ้นปลา ปรุงรสด้วยน้ำปลา พอเดือด ยกลง
4. ใส่ขึ้นฉ่ายไว้ก้นชาม ตักแกงจืดปลาหมึกใส่ชามอาหาร โรยต้นหอมผักชี รับประทานร้อนๆ


แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย



แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
ส่วนผสม
เนื้อปลากรายสับละเอียด 800 กรัม
มะเขือพวง 100 กรัม
มะเขือเปราะผ่าสี่ 250 กรัม
มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม
แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายพริกชี้ฟ้าแดงหั่นแว่นเฉียง 3 เม็ด
กระเทียมโขลกละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีโขลกละอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระชายซอยเป็นเส้นยาวๆ 1/2 ถ้วย
โหระพาเด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกหวานสีเขียวหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกสดสีเขียว 10 เม็ด
หอมแดงซอย 3 หัว
กระเทียมซอย 6 กลีบ
ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ตะไคร้ฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
กระชายปลอกเปลือกหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ลูกผักชี 1/2 ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด 5 เม็ด
เกลือป่น กะปิ อย่างละ 1/2 ช้อนโต๊ะ
โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด

วิธีทำ
1. คั้นมะพร้าว ให้ได้หัวกะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 4 ถ้วย
2. โขลกเนื้อปลากราย กระเทียม รากผักชี เข้าด้วยกัน แล้วปั้นให้เป็นก้อนกลมเท่าหัวแม่มือ
3. ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่เนื้อปลากรายที่ปั้นไว้ พอปลาสุกตักออก พักไว้
4. ใส่หัวกะทิลงในกระทะ ตั้งไฟเคี่ยวพอจวนแตกมัน ใส่เครื่องแกง ผัดให้หอม ใส่ลูกชิ้นปลากราย ใส่กระชาย ผัดให้ทั่ว ใส่หางกะทิ
5. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด คนพอทั่ว มะเขือสุก ปิดไฟ ยกลงตักใส่ชามอาหาร

หมายเหตุ!! พริกหวาน จะทำให้น้ำแกงมีสีเขียวสวย น่ารับประทาน

แกงกุ้ง

แกงกุ้ง 
ส่วนผสม
แกงกุ้ง
กุ้งแม่น้ำ 750 กรัม
น้ำมันพืชอย่างดี 90 กรัม
หอมหัวใหญ่สับละเอียด 160 กรัม
กระเทียมสับละเอียด 20 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง 8 เม็ด
เมล็ดผักชีไทย 4 กรัม
เครื่องเทศอินเดีย "Ajwain" 5 กรัม
มะเขือเทศสับ 750 กรัม
ขิงสับ 40 กรัม
ผักชี 10 กรัม
พริกชี้ฟ้าเขียว 6 เม็ด
เครื่องเทศ Garam Masala 10 กรัม
เฟนูกรีก 5 กรัม
เกลือ
น้ำมะนาว


วิธีทำ
1. ปอกเปลือกกุ้ง ล้างทำความสะอาด ซับให้แห้ง พักไว้
2. นำพริกชี้ฟ้าแดงและเมล็ดผักชี ตำหรือปั่นเข้าด้วยกัน เป็นเครื่องเทศไว้ผัด พักไว้
3. ตั้งน้ำมันพืชในกระทะ(Kadhai) ไปปานกลาง ผัดหอมหัวใหญ่ จนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง จากนั้นใส่กระเทียมผัดเล็กน้อย จึงใส่พริกชี้ฟ้าแดง เมล็ดผักชีที่เตรียมไว้และเครื่องเทศ Ajwain ผัดต่ออีกสักครู่ ตามด้วยมะเขือเทศสับ เคี่ยวสักครู่ ใส่ขิงสับและพริกชี้ฟ้าเขียว
4. เพิ่มไฟปานกลางแรงขึ้นอีกเล็กน้อยบี้ส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียดและเคี่ยวจนเป็นเนื้อเดียวกัน สำหรับเป็นเครื่องแกง
5. ใส่กุ้งลงไปคลุกเคล้าจนน้ำเข้าเนื้อกุ้ง(ในกรณีที่น้ำแกงมากเกินไป ให้ใช้ไฟแรงขึ้นอีกเล็กน้อย)
6. จัดใส่กระทะ(Kadhai) ปรุงรสด้วยเกลือ โรยด้วยเครื่องเทศ Garam Masala เฟนูกรีก และน้ำมะนาวเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน แต่งหน้าด้วยขิงสับ ผักชี เสิร์ฟพร้อมแป้งนาน(Naan)

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ยำไข่เจียวน้ำพริกเผา


ยำไข่เจียวน้ำพริกเผายำไข่เจียวน้ำพริกเผา
 ส่วนผสม
ไข่ 1 ฟอง
หมูสับ 1/4 ถ้วย
กระเทียมดอง 2 หัว
กุ้งชีแฮ้ต้มใส่เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาวหั่นติดผิว 2 ช้อนชา
น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกแดงโรย
ผักชีโรย


วิธีทำ
1. เจียวไข่ ให้กรอบหนาๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตัดให้สั้น
2. เอาหมูสับไปจี่ในกระทะ กดให้แบนทั้ง 2 ด้าน เมื่อเกรียมดีแล้ว ก็ตักขึ้น
3. กระเทียม ดองผ่าซีกหั่นตามยาว ละลายน้ำพริกเผา น้ำตาล น้ำปลา มะนาว ชิมรสตามชอบ คลุกเคล้ายำกับไข่เจียว ตักใส่จานอาหาร โรยผักชี และพริกแดงหั่นฝอย เป็นอันเสร็จพิธี

พล่าปลาซาบะ


พล่าปลาซาบะ
พล่าปลาซาบะ
 ส่วนผสม
ปลาซาบะ 1 ตัว
พริกขี้หนู 15 - 20 เม็ด
มะนาว 2 ผล
ตะไคร้ 2 ต้น
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
หัวหอมเล็กซอย 1/4 ถ้วย
ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
ผักกาดหอม 5 - 6 ใบ
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.แกะปลาซาบะเป็นชิ้นเล็ก หรือ แกะซีกเป็นชิ้นใหญ่ จัดใส่จานอาหาร
2.พริกขี้หนูเด็ดก้านออก โขลกพอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย มะนาว ซอยตะไคร้บางๆ และ ใบมะกรูดหั่นฝอย หัวหอมซอยบางๆ โรยบนตัวปลา ราดด้วยน้ำที่ปรุงไว้ โรยด้วยใบสะระแหน่ รับประทานเป็นกับแกล้ม